ในประเทศ

เยาวชนบุกสภา ค้านตั้งกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย

เมื่อวันที่1 ธันวาคม 2564  ที่อาคารสภาผู้แทนราษฎร เกียกกาย เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายสื่อเพื่อการขับเคลื่อนสังคม (Media move)  ที่ร่วมเป็น “คณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน”  ซึ่งตั้งขึ้นโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชวน หลีกภัย) ผ่านทางนายสมบูรณ์   อุทัยเวียนกุล  เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อสภาฯ  กรณี ส.ส. หลายพรรค ผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในประเทศไทย  โดยเครือข่ายได้แต่งกายด้วยกระดาษลัง สะท้อนภาพเป็นผีพนันที่หมดตัว  เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในวันนี้ด้วย 

นายโยธิน ทองพะวา  ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ได้พิจารณาญัตติด่วน การขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (entertainment complex ที่มีกาสิโนเป็นศูนย์กลางของธุรกิจ) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ โดยมี ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเสนอญัตติรวม 12 ฉบับ ทุกฉบับมีเนื้อหาไปในทางเดียวกันคือ เสนอให้ตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย และให้มีบริการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายอีกด้วย   เครือข่ายซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากการพนันมาอย่างต่อเนื่อง ได้สัมผัสถึงผลกระทบจากการพนันที่มีส่วนทำลายอนาคตเด็กเยาวชน และบุคคลในครอบครัว  เราเห็นด้วยที่เรื่องนี้จะได้ใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรในการศึกษา  ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางตามวิถีทางประชาธิปไตย 

“อย่างไรก็ตามเครือข่ายยังมีข้อกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา  โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายหรือถูกใช้ประโยชน์จากการพนัน อีกทั้งยังไม่มีหลักประกันว่าหากมีบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมายแล้ว จะลดปัญหาคนไทยไปเล่นพนันชายแดน หรือทำให้บ่อนการพนันที่ผิดกฎหมายหายไปได้  หรือการมีพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมายแล้วจะมีผลดีต่อสังคมไทยอย่างไร   ทุกวันนี้ปัญหาจากการพนันอื่นๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทยยังไม่ได้รับการป้องกันและแก้ไขให้เป็นรูปธรรมเลย  ตัวอย่างเช่นเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายเกินราคาก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ แม้จะเพิ่มจำนวนการพิมพ์สลากฯมากขึ้นมหาศาล  ก็ไม่ได้ทำให้ราคาสลากขายตามที่กำหนด 80 บาทแต่อย่างใด  และที่อ้างว่าจะมีส่วนทำให้หวยใต้ดินลดลงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย  มีเพียงการมอมเมาที่มากขึ้นเท่านั้น”นายโยธินกล่าว

ด้านนายพชรพรรษ์  ประจวบลาภ  เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย  กล่าวว่า การสร้างกาสิโน และพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมายจะเป็นการเพิ่มพื้นที่การพนัน สร้างนักพนันหน้าใหม่ มอมเมาสังคมให้ยิ่งหมกมุ่นกับการพนัน ส่วนความคุ้มค่าในมิติทางเศรษฐกิจที่ฝ่ายผู้สนับสนุนบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญในการนำเสนอ ซึ่งประเด็นนี้ก็ยังมีข้อกังขาว่าสุดท้ายแล้วจะได้คุ้มเสียหรือไม่ เพราะการพนันทุกชนิดล้วนแต่สร้างผลกระทบต่อสังคมทั้งสิ้น  อีกทั้ง “พฤติกรรมการติดพนัน” เป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่ง เรียกว่า Pathological Gambling หรือ โรคติดพนัน อาการคือ ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ไม่ไปเล่นการพนันได้ แม้จะมีความทุกข์จากการพนัน แต่ก็หยุดไม่ได้ ยังคงต้องเล่นต่อไป และการพนันส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะด้านสมอง  งานวิจัยด้านการแพทย์ระบุชัดเจนว่า การพนันเป็นเกมที่สามารถทำลายสมองของเด็กและเยาวชนได้อย่างถาวร และผู้ติดพนันส่วนหนึ่งมีภาวะซึมเศร้า เคยคิดฆ่าตัวตาย  ปัญหาเหล่านี้ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเลยเข้ามาแก้ไขอย่างจริงจัง  คนติดพนันที่อยากเลิกก็ไม่มีที่พึ่ง  กลายสภาพเป็นคนที่ล้มเหลวทางชีวิตและสังคม  

“สถานการณ์การเล่นพนันในสังคมไทยในปี 2562 จากการสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่ามีคนไทยกว่า 40 ล้านคน มีประสบการณ์เคยเล่นพนัน เป็นนักพนันหน้าใหม่ 7.19 แสนคน เป็นเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปี กว่า 3.7 ล้านคน จากสถานการณ์การพนันที่กล่าวมาข้างต้น ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวผู้เล่น ครอบครัว คนรอบข้าง และบุคคลทั่วไปในสังคม ทั้งปัญหาหนี้สิน ความเครียด คดีความ อาชญากรรม และความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน  สภาต้องตระหนักในข้อเท็จจริงเหล่านี้ด้วย”  นายพชรพรรษ์  กล่าว

นายณัฐพงศ์  สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน  กล่าวว่า เครือข่ายฯมีจุดยืนและข้อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชวน หลีกภัย) พรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังต่อไปนี้1. เครือข่ายมีจุดยืนไม่สนับสนุนกาสิโนหรือพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในประเทศไทย  ซึ่งมิใช่เรื่องจุดยืนในทางศีลธรรมหรือศาสนา  หรือดัดจริต  แต่เป็นเพราะปัญหาการพนันอื่นๆที่ผ่านมาในสังคมไทย  ยังไม่มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง  ไม่ว่าจะในรัฐบาลใด เราพบแต่วาทกรรม ความล้มเหลวและการขยายตัวของการพนันที่มากขึ้น รวมถึงการปฏิรูปตำรวจที่มีส่วนเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาเหล่านี้ก็ยังย่ำอยู่กับที่ 2. การที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังจะพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (มีบ่อนกาสิโน) รวมไปถึงข้อเสนอพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย  เครือข่ายฯขอให้ดำเนินการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อสังคม ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ และผลกระทบทางสังคมในมิติต่างๆ รวมถึงการศึกษามาตรการควบคุมปัญหาและลดผลกระทบจากการพนัน โดยเฉพาะในประเด็นปกป้องเด็กเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง  โดยควรมีตัวแทนจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เป็นกลาง  เชื่อถือได้ อาทิ ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน หรือตัวแทนองค์กรด้านเด็ก เยาวชนและครอบครัว เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ  มิใช่มีแต่ฝ่ายสนับสนุน

“ 3 ขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและทุมเทกับการป้องกันปัญหาและศึกษาผลกระทบจากการพนันทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ควรร่วมคิดอ่านมาตรการ แนวทางอย่างเป็นระบบ มีมาตรการเชิงรุก แก้ปัญหาการพนันให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะพนันออนไลน์  ที่พบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19  ส่งผลให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนันเพิ่มมากขึ้น  และ4.ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้เพื่อนเด็กๆ เยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ  จับตาเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด  อย่าปล่อยให้อนาคตของเราถูกวางล้อมไว้ด้วยการมอมเมา ชีวิตอยู่กับการเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง  ควรช่วยกันศึกษาและแสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริงของเรา  ร่วมกันกำหนดอนาคตของเรา” นายณัฐพงศ์  กล่าว