ในประเทศ

เปิดผลศึกษาคาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น

เปิดผลศึกษาคาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น ทั้งฆาตกรรม 2.47 ต่อแสนประชากร ส่วนข่มขืน สูงถึง 4.08 ราย กว่า 88% ซดแอลกอฮอล์ย้อมใจก่อนก่อเหตุ 

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการศึกษาผลกระทบของคาสิโนถูกกฎหมายต่อการฆาตกรรมและข่มขืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2010-2020 เทียบค่าเฉลี่ยการอนุญาตกับไม่อนุญาตให้มีคาสิโนในประเทศพบว่า ประเทศที่ไม่อนุญาติให้มีคาสิโน อัตราการฆาตกรรมอยู่ที่ 1.97 รายต่อ 100,000 ประชากร กรณีที่อนุญาตให้มีคาสิโน อัตราการฆาตกรรมอยู่ที่ 2.47 รายต่อ100,000 ประชากร ส่วนกรณีข่มขืนพบว่า ประเทศที่ไม่อนุญาตให้เปิดคาสิโน อัตราการข่มขืนอยู่ที่ 1.80 รายต่อ 100,000 ประชากร ในขณะประเทศที่อนุญาตให้เปิดคาสิโนอยู่ที่ 4.08 ราย โดยในคาสิโนและละแวกมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอออล์สูงมาก ปัญหาอาชญากรรมร้ายแรงจึงเพิ่มขึ้นตาม สอดคล้องกับผลการศึกษาในต่างประเทศที่พบว่า จำนวนร้านเหล้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการฆาตกรรมเพิ่มสูงขึ้น และกว่า 88 % ของผู้ก่อเหตุข่มขืนใช้แอลกอฮอล์ย้อมใจให้เกิดความกล้า ลดการรู้ผิดชอบชั่วดี

“เช่น เหตุการณ์นักพนันชาวเวียดนามถูกฆาตกรรมในปี 2022 ที่ Moc Bai Casino เมือง Bavet ประเทศกัมพูชา ตรวจสอบพบเป็นหนี้การพนันกว่า 3,000 ดอลลาร์ น่าสนใจว่า มีเหตุฆาตกรรมเกี่ยวกับพนันคาสิโนในเมืองนี้อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่คาสิโนในภูมิภาคนี้มักเป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร คนติดยาเสพติด คนเมา จึงมีการก่อเหตุข่มขืน รวมถึงข่มขืนแล้วฆ่าพนักงานหญิงที่เลิกงานดึกบ่อยครั้ง รวมถึงปัญหาการค้ามนุษย์ เช่น เมษายนปีนี้ พนักงานชาวเวียดนามที่ทำงานในคาสิโน ได้ถูกสังหารแล้วทิ้งศพในคลอง ไม่นับรวมการหลอกลวงหญิงต่างชาติมาค้าประเวณี”

รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวต่อว่า จะเห็นว่า สถานการณ์การฆาตกรรมและการข่มขืน ระหว่างการอนุญาตให้เปิด กับไม่เปิดคาสิโนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น รัฐบาลไทยควรทบทวนนโยบายเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีคาสิโนถูกกฎหมายเป็นหลัก เพราะมีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า คาสิโนและพื้นที่โดยรอบมีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก โดยเฉพาะในคาสิโนมักมีการ offer free drink เพื่อให้นักพนันอยู่ในคาสิโนนานขึ้น รวมถึงลดความยับยั้งชั่งใจในขณะที่เล่นพนัน โดยความเมาจะทำให้นักพนันกล้าเดิมพันมากขึ้น ดังนั้น ปัญหาสังคมจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งฆาตกรรม ข่มขืน อุบัติเหตุทางถนน รวมถึงปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ปี 2567 พบว่า การฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับการพนันก็มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากกว่ากรณีที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่ม นอกจากนี้ การมีคาสิโนในชุมชนทำให้การตายบนท้องถนน ที่มีสาเหตุจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น เช่นกัน