รักลูกจริง ต้องทิ้งบุหรี่ไฟฟ้า
“…เมื่อพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในห้องที่มีลูกอยู่ด้วย หรือสูบใกล้ลูกที่ยังเล็ก เด็กไม่ได้เป็นผู้หามาสูบเอง แต่กลับได้รับไอจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินและสารพิษต่างๆโดยตรง สิ่งนี้ไม่ต่างจากการส่งต่อควันบุหรี่มือสองให้ลูก ทำให้เด็กไทยต้องเผชิญกับอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า จนอาจกล่าวได้ว่า ทารกเด็กเล็กสูบบุหรี่ตั้งแต่แรกเกิด…”
“เด็กไทยสูบบุหรี่ตั้งแต่เกิด” อาจไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่เด็กและเยาวชนที่สามารถหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบเอง จากแรงจูงใจทางธุรกิจและการขับเคลื่อนของกลุ่มต่างๆ แต่ยังมีปัญหาสำคัญจาก ควันบุหรี่มือสอง ที่พ่อแม่อาจไม่ตระหนักถึงกับลูกเล็กหรือทารกน้อย
เมื่อพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในห้องที่มีลูกอยู่ด้วย หรือสูบใกล้ลูกที่ยังเล็ก เด็กไม่ได้เป็นผู้หามาสูบเอง แต่กลับได้รับไอจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินและสารพิษต่าง ๆ โดยตรง สิ่งนี้ไม่ต่างจากการส่งต่อควันบุหรี่มือสองให้ลูก ทำให้เด็กไทยต้องเผชิญกับอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า จนอาจกล่าวได้ว่า ทารกเด็กเล็กสูบบุหรี่ตั้งแต่แรกเกิด
เมื่อพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีผลกระทบที่ลูกต้องเผชิญ
ปัจจุบัน จำนวนพ่อแม่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางคนอาจไม่ทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้นกับลูก บางคนอาจคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่แท้จริงแล้ว เด็กที่เติบโตในครอบครัวที่มีพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า กำลังเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งทางสุขภาพ จิตใจ และพฤติกรรม
ขอเชิญ ผู้ใหญ่ใจดี ทั้งหลาย มาร่วมกัน ส่งเสียงแทนเด็กๆ ว่า “พวกเขาสมควรได้รับอากาศบริสุทธิ์ ไม่ใช่สารพิษ” และพ่อแม่ควรตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ดังต่อไปนี้
1. ควันบุหรี่มือสองและสารตกค้างจากบุหรี่ไฟฟ้า
• แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะผลิตละอองลอยแทนควัน แต่ก็ยังคงมี นิโคติน โลหะหนัก และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งเด็กๆ อาจสูดดมเข้าไป ส่งผลเสียต่อปอดและสมอง
• สารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงอยู่ในอากาศ แต่ยัง เกาะติดบนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และพื้นผิวต่างๆ เด็กเล็กที่คลานหรือสัมผัสสิ่งของเหล่านี้ อาจได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
2. ความเสี่ยงต่อการติดนิโคตินในเด็ก
• การศึกษาพบว่า เด็กที่สัมผัสนิโคตินตั้งแต่เล็ก มีแนวโน้มที่จะติดสารเสพติดได้ง่ายขึ้นในอนาคต
• เมื่อเด็กเห็นพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ อาจทำให้พฤติกรรมนี้ดูเป็นเรื่องปกติ และเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะลองสูบเอง
3. ผลกระทบต่อพัฒนาการของสมองและสุขภาพ
• นิโคตินส่งผลโดยตรงต่อ พัฒนาการของสมองเด็กและวัยรุ่น โดยอาจทำให้เกิด สมาธิสั้น การควบคุมอารมณ์ผิดปกติ และปัญหาด้านพฤติกรรม
• รายงานจาก Public Health England ชี้ให้เห็นว่า เด็กที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ มีโอกาสเป็นโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น 30%
4. อิทธิพลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของเด็ก
• เด็กอาจเชื่อว่า “บุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตราย” และอยากลองสูบเพราะเห็นพ่อแม่ทำเป็นปกติ
• ความพยายามของพ่อแม่ที่ต้องการสอนให้ลูกหลีกเลี่ยงบุหรี่ไฟฟ้า อาจไม่ได้ผล เพราะเด็กจะตั้งคำถามว่า “ถ้ามันอันตราย ทำไมพ่อแม่ยังสูบ?”
มีหลักฐานจากต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่า พ่อแม่ที่ละเลย สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีผล ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับลูก?
• สหรัฐอเมริกา: งานวิจัยของ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) พบว่า เด็กที่มีพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีโอกาสสูงกว่าถึง 2 เท่าที่จะลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
• ออสเตรเลีย: รายงานชี้ว่า เด็กที่เติบโตในครอบครัวที่พ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และปัญหาควบคุมอารมณ์สูงขึ้น
สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ “ข้อสันนิษฐาน” แต่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงในหลายประเทศดังกล่าว
ดังนั้น การรักลูกให้ถูกต้อง พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องหยุดส่งต่อสารพิษให้พวกเขา
บุหรี่ไฟฟ้าอาจถูกมองว่าเป็น “อันตรายน้อยกว่า” ซึ่งก็ไม่จริง ยิ่งกว่านั้น สำหรับเด็ก ไม่มีสิ่งใดที่ปลอดภัยเมื่อต้องเผชิญกับนิโคตินและสารพิษ
หากพ่อแม่รักลูก อย่าทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับควันพิษ
หากพ่อแม่ ยังเลิกไม่ได้ จงปกป้องลูก – อย่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าในบ้าน หรือใกล้เด็ก
ถ้าพ่อแม่ พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นวันนี้ – เพื่อลูกของคุณ
“พ่อแม่ที่รักลูกจริง ต้องตัดใจทิ้งบุหรี่ไฟฟ้า!” เพราะสุขภาพและอนาคตของพวกเขา สำคัญกว่าสิ่งใด
อย่าให้เด็กไทยต้องสูบบุหรี่กันตั้งแต่เกิด !!!
วิทยา กุลสมบูรณ์
มูลนิธิเภสัชชนบท
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.bangkokhospital.com
