“ทองหล่อ เมเนจเม้นท์” ดันแคมเปญแยกขยะ รับนโยบายค่าธรรมเนียมใหม่ของ กทม. เดินหน้าสู่มาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากล
บริษัท ทองหล่อ เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารโครงการอาคาร Eight Thonglor Residences, ศูนย์การค้า Eight Thonglor และโรงแรม MUU Bangkok เดินหน้าส่งเสริมการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เชิญชวนผู้อยู่อาศัย ลูกค้า คู่ค้า และแขกผู้เข้าพัก ร่วมคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิล ลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด และลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะให้สอดคล้องกับข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมขยะฉบับใหม่ของกรุงเทพมหานคร

นายศุภวิชญ์ เครือพันธุ์ทิพย์ ผู้จัดการอาคารเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นส์เซส กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจในเครือให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการขยะ โดยเฉพาะ “ขยะอาหาร (Food Waste)” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในทุกโครงการ โดยมีการคัดแยกขยะอินทรีย์ออกจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อลดภาระในการจัดการขั้นปลาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขยะ

ในขณะที่นายคริสเตียน โอ. เอช. ซุงค์ (Christian O.H. Zunk) ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่ม มูว์ โฮเทลส์ (MUU Hotels) กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกลุ่มได้ริเริ่มแยกขยะอาหารเพื่อนำไปผลิตน้ำหมักชีวภาพ หรือ EM Solution ตามคำแนะนำจากสำนักงานเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถนำมาแจกจ่ายให้แก่ผู้อยู่อาศัยและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อใช้ในครัวเรือนและพื้นที่พาณิชย์ ช่วยลดการใช้สารเคมีในการทำความสะอาดภายในอาคารอีกด้วย
ด้านนายจักรพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชื่นชมการดำเนินงานด้านการคัดแยกขยะของบริษัท ทองหล่อ เมเนจเม้นท์ จำกัด โดยระบุว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของภาคเอกชนที่สามารถนำนโยบายไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างชัดเจน สอดคล้องกับแนวทางของกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็น “โครงการจัดการขยะต้นแบบ” หรือโครงการ “ไม่เทรวม”

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีปริมาณขยะเฉลี่ยราว 9,000 ตันต่อวัน โดยกว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์และเศษอาหาร การคัดแยกอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มปริมาณวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ลดต้นทุนในการจัดเก็บและกำจัดขยะ และสอดรับกับร่างข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมการให้บริการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ โดยผู้ประกอบการที่มีการคัดแยกขยะอย่างเหมาะสมจะได้รับอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดำเนินการใด ๆ
นอกจากนี้ บริษัท ทองหล่อ เมเนจเม้นท์ จำกัด ยังมีแผนดำเนินการเพื่อขอรับรองมาตรฐาน ISO 14001 ภายในปี 2568 เพื่อยกระดับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคอสังหาริมทรัพย์และการบริการ