TWZ สุดปัง ! รับกระแส WFH ดันกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกโต 353%
TWZ เผยผลการดำเนินงานสุดปัง ! สวนทางกระแสล็อคดาวน์ หลังกำไรสุทธิไตรมาส 3 ขยายตัว 78.45% ขณะที่งวด 9 เดือนของปีนี้ กวาดรายได้เฉียด 2.5 พันล้านบาท กำไรโต 353% ระบุธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้รับอานิสงส์จากการทำงานที่บ้าน (Work From Home : WFH) ส่งผลยอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริม แม้จะได้รับผลกระทบจากการปิดห้างก็ตาม พร้อมรับรู้กำไรจากบริษัทย่อย ประเมินไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ภาพรวมธุรกิจสื่อสารยังคึกคัก หลังเปิดประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากกระแสเปิดตัวไอโฟน 13
นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคมถึงกันยายน) ปี 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 771 ล้านบาท ลดลง 0.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 8.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.45% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 ขณะที่รายได้รวม 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคมถึงกันยายน) อยู่ที่ 2,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.64% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 14.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 353% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“เราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวตามคำสั่งรัฐ อย่างไรก็ตาม เราได้รับปัจจัยบวกจากกระแสทำงานที่บ้านหรือ Work From Home (WFH) ที่ประชาชนมีความต้องการใช้อุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนปรับตัวดีขึ้น รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อ และอุปกรณ์เสริมหรือ Accessories ต่างๆ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น ทำให้ลดผลกระทบจากการปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวไปได้ นอกจากนี้ เรายังรับรู้กำไรจากบริษัทย่อยในส่วนของธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจโทรคมนาคม (Non-Telecom) ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 และงวด 9 เดือน สามารถเติบโตได้ สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งถือว่าน่าพอใจมากในภาวะที่มีความท้าทายมากเช่นนี้” นายกิตติพงศ์กล่าว
สำหรับภาพรวมของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เชื่อว่ามีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักขึ้น และความต้องการใช้เครื่องมือสื่อสารจะมากขึ้น นอกจากนี้ TWZ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟน 13 ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก และทำให้รายได้จากการขายสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีส่วนต่างกำไรไม่มาก แต่ก็มีส่วนทำให้ภาพรวมของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมดีขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWZ กล่าวด้วยว่า แม้ว่าปัจจุบัน บริษัทฯ จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) และธุรกิจกัญชงกัญชา แต่รายได้หลักยังคงอยู่ในสายโทรคมนาคม ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสขยายตัวต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะจุดแข็งของ TWZ ที่มีพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้นำในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดอย่างเอไอเอส (AIS)