วุฒิสภาผนึก สสส.ยื่นกระทรวงคมนาคม ชง 3 ข้อเสนอนโยบายความปลอดภัยถนน-ทางม้าลาย
วุฒิสภาผนึก สสส.ยื่นกระทรวงคมนาคม ชง 3 ข้อเสนอนโยบายความปลอดภัยถนน-ทางม้าลาย หลังพบปี 64 ผู้เสียชีวิตเป็นคนเดินเท้า-คนข้ามถนนมากถึง 8 % ชี้ “ความเร็ว” เป็นสาเหตุเสียชีวิตถึง 70 % แนะขอความร่วมมือผู้ขับขี่ให้ชะลอ-หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ลดอุบัติเหตุ-ลดสูญเสีย
วันที่ 25 ส.ค.65 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กล่าวว่า ภาพรวมความปลอดภัยทางถนนของไทย พบว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนแม้จะค่อยๆลดลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีตัวเลขที่สูงจะเห็นได้จากปี 2564 มีจำนวนถึง 16,957 รายคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 25.8 ต่อประชากรหรือ 47 รายต่อวันในจำนวนนี้เป็นกลุ่มคนเดินเท้าคนข้ามถนนมากถึง 6-8 %
“เป็นที่ทราบกันดีถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากรถคนและถนน โดยปัจจัยเสี่ยงสำหรับคนเดินเท้าหรือคนข้ามถนนอาทิ รถใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์มีการขับแทรกช่องทางจราจรไม่ชะลอหรือหยุดให้คนข้ามถนนช่องจราจรหลายช่องทำให้มีจุดบดบังสายตา ไม่มีสัญญาณให้คนขับรถทราบก่อนถึงทางข้าม จึงมีข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีความพร้อมในการกำกับดูแลมีกำลังคนรวมถึงทุกหน่วยงานในสังกัดที่จะร่วมดูแลความปลอดภัยทางถนนให้บรรลุสำเร็จ”
นายสุรชัย กล่าวว่าได้มีการยื่นข้อเสนอแนะในประเด็นความปลอดภัย 3 ด้าน คือ 1.ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนโดยกรมขนส่งทางบกเช่น กำหนดเนื้อหาของการอบรม/สอบใบอนุญาตขับขี่/สื่อสารที่สร้างความปลอดภัยกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2.ด้านสภาพแวดล้อมโครงสร้างและถนนโดยกรมทางหลวงกรมทางหลวงชนบท เช่น ถนนเขตเมือง-เขตชุมชน ต้องมีมาตรการลดความเร็ว กำหนด Speed Zone จัดทำมาตรการด้านการชะลอความเร็ว (traffic calming 3.ด้านการบริหารจัดการโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรศูนย์ปลอดภัยคมนาคมและสำนักอำนวยความปลอดภัยกรมทางหลวงกรมทางหลวงชนบท เช่น เร่งรัดติดตามการพัฒนาระบบข้อมูลด้านอุบัติเหตุทางถนนให้นำมาใช้งานเพื่อการวางแผน กำกับติดตามและประเมินผล
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดบริเวณทางม้าลาย ส่วนใหญ่เกิดในเขตชุมชน หน้าโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หรือหน้าสถานที่ราชการ “ความเร็ว” เป็นสาเหตุสำคัญมากถึง 70 % ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต และในเขต กทม.ถือเป็นพื้นที่ที่มีอุบัติเหตุทางม้าลายสูงสุดของประเทศ ฉะนั้นการใช้ความเร็วที่ 30-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเขตเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านนั้น เป็นความเร็วที่ทางองค์การอนามัยโลกได้แนะนำไว้ว่าช่วยลดการเสียชีวิตได้ถึง 90 % จึงขอความร่วมมือผู้ขับขี่ให้ชะลอก่อนถึงทางม้าลายและหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย และสำหรับคนข้ามทางม้าลายขอให้ระมัดระวังมองขวามองซ้าย เพื่อลดอุบัติเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ร่วมทาง
“การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 7 เพื่อระลึกถึงหมอกระต่าย สสส.ยังคงขับเคลื่อนทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย และรณรงค์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน เพื่อผลักดันให้เกิดความปลอดภัยในการข้ามทางม้าลาย ทั้งในกลุ่มคนเดินข้ามทางม้าลายและผู้ขับขี่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน ที่ล่าสุดเกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียน จ.สระแก้ว พบนักเรียนบาดเจ็บถึง 39 คนการยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก เป็นเจ้าภาพร่วมในการดูแลการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน และความปลอดภัยบนทางข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียน รวมไปถึงรถต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางบก เพื่อร่วมกันดูแลให้เกิดความปลอดภัยทางถนน” ดร.นพ.ไพโรจน์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงคมนาคมกรมการขนส่งทางบก และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้ ครั้งที่ 7 “คมนาคมขนส่งไทยขับขี่ปลอดภัยทุกการเดินทาง” ณ กรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กรุงเทพฯ พร้อมยื่นข้อเสนอต่อปลัดกระทรวงคมนาคม เรื่องการป้องกันแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนด้านคน รถ ถนนและบริเวณทางม้าลาย