เครือข่ายงดเหล้า จับมือโรงพักพิมาย ร่วมโครงการลด ละ เลิกเหล้าเข้าพรรษา100 %
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 นางสมควร งูพิมาย แกนนำประชาคมงดเหล้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ ตามสโลแกนซูเปอร์พ่อแม่ พอแล้วเหล้าเบียร์ ของ สสส. ทางประชาคมฯ ได้เพิ่มกลุ่มเป้าหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีตำรวจภูธรพิมาย เพราะเห็นถึงปัญหาการดื่มเหล้าของพี่น้องตำรวจที่มักจะส่งผลกระทบต่อตนเองและครอบครัว จึงเห็นโอกาสเชิญชวนให้ตำรวจในฐานะที่เป็นพ่อ ให้ใช้โอกาสเข้าพรรษาลองเปลี่ยนแปลงตนเอง ให้เป็นไอดอลหรือฮีโร่ให้กับคนในครอบครัว และสังคม
จุดเริ่มต้นมาจาก เมื่อ 6 ปีก่อน ร.ต.อ.วีรพงษ์ แดนพิมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรพิมาย ประสบปัญหาการดื่มเหล้า อยากเลิกเหล้าจึงสมัครใจมาร่วมเป็นนักรณรงค์งดเหล้ากับเครือข่ายฯ จนในที่สุดก็เลิกได้ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานชมรมคนหัวใจเพชร โดยเชิญชวนเจ้าหน้าที่ตำรวจแรกเริ่ม 20 นาย และทำมาเรื่อยๆ ทุกปี ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมือดีมาก จึงเห็นเป็นโอกาสว่าปีนี้น่าจะชวนทั้งโรงพัก ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพิมาย ท่านเห็นความสำคัญและเข้าร่วมโครงการ โดยมีการประกาศเจตนารมณ์เชิญชวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งโรงพักจำนวน 106 นายเข้าร่วมโครงการลด ละ เลิกเหล้าเข้าพรรษา แต่ก็ไม่ได้บังคับ ใครจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ได้ ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าร่วมทุกคน
นางสมควร กล่าวต่อว่า การทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือดีมาก โครงการประสบความสำเร็จมาก ซึ่งข้อดีคือเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรักองค์กร มีระเบียบวินัย มีสัจจะ พอทำไปเดือนแรกจึงเห็นความสำเร็จเร็วกว่าการทำในชุมชน ดังนั้นในเดือนที่ 2 ทางเครือข่ายจึงร่วมกับกลุ่มเด็ก และเยาวชนนำเอาต้นกล้าผักสวนครัวไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่สถานีฯ เป็นของกลางที่ทุกคนสามารถเก็บไปกินได้ ทุกครั้งที่เก็บกินก็ทำให้นึกถึงการลด ละ เลิก เหล้าเข้าพรรษา เพราะได้มาจากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ดังนั้นในเดือนกันยายนนี้คิดว่าจะนำกล้าไม้ยืนต้น ไม้มีราคามาให้ปลูก ซึ่งมีนัยยะว่าใครเป็นคนปลูก ปลูกเพราะอะไร เกิดเป็นจิตวิญญาณ มีความทรงจำ หากเมื่อไหร่มีผู้กำกับคนใหม่เข้ามาปฏิบัติงาน แล้วอาจจะไม่ได้มีแนวคิดแบบเดียวกัน อย่างน้อยเราก็มีป้ายติดไว้ว่าที่นี่คือสถานีตำรวจนำร่องโครงการ ลด ละ เลิก เหล้าเข้าพรรษา และเป็นศูนย์การเรียนรู้ของเครือข่ายด้วย
“เรื่องนี้ทางผู้กำกับก็เล่นด้วย และตั้งกติกาว่า นายตำรวจนายใดจะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ต้องมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก่อน หากพบว่ามีการดื่มมาก็ถือว่าไม่พร้อม ไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการยกระดับการทำงานอีกทางหนึ่ง แล้วยังเอาโครงการที่เขาเข้าร่วมไปรายงานต่อหน่วยงานผู้บังคับบัญชา ผลการปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถ ลด ละ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จริงๆ แม้แต่คนที่ติดเหล้า ทุกคนไม่มีแตกพรรษา ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งเพราะนายเอาด้วย องค์กรเอาด้วย แล้วพูดให้กำลังใจกันเองตลอด” นางสมควร กล่าว
นางสมควร กล่าวต่อว่า หลังโครงการที่ทำร่วมกับสถานีตำรวจภูธรพิมายสำเร็จ เราได้มีการตั้งเป้าหมายอยากจะขยายโครงการไปให้ครบทั้งตำรวจภาค 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน คิดว่าช่วงหลังพรรษา หรือมีโอกาสจะมีการพูดคุยกันมากขึ้น โดยมีการเตรียมความพร้อมทางด้านข้อมูลไปเสนอ นอกจากนี้เรายังคิดต่อยอดไปอีกว่า จะมีการเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเสนอไปยังจังหวัดเพื่อให้มีการกำหนดเป็นนโยบายการสนับสนุน ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลด ละ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ด้วยการค่อยๆ ลดปริมาณการดื่มน้อยลง ลดวันดื่มให้น้อยลง อาจจะยังไม่ต้องเลิกทันทีทันใด เพราะเราเองก็เข้าใจว่าไม่มีใครเลิกได้แบบทันทีทันใด ตามสเต็ปคือค่อยๆ ลด จากนั้นก็ค่อยๆ ละและจะนำมาสู่การเลิกดื่มได้
