ในประเทศ

แม่เหยื่อนักเรียนสันติราษฎร์สุดช้ำ ถูกหมอคนดังชนบนทางม้าลาย  ฝากเงินเยียวยาไว้กับตำรวจคนละหมื่น 

แม่เหยื่อนักเรียนสันติราษฎร์สุดช้ำ ถูกหมอคนดังชนบนทางม้าลาย  ฝากเงินเยียวยาไว้กับตำรวจคนละหมื่น  ไร้การขอโทษ  ส่วนประกันจ่ายสูงสุดแค่ 3,000 ด้านครอบครัวลั่นไม่รับเงินตามที่เสนอมา เดินหน้าสู้เอาผิดขั้นสูงสุดหวังสร้างบรรทัดฐานใหม่เพิ่มความปลอดภัยบนทางม้าลาย

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 65 แม่น้องพลอย (ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง) นักเรียนโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ที่ถูกรถชนขณะข้ามทางม้าลายบริเวณหน้าโรงเรียน พร้อมเพื่อนอีก 2 คน  เมื่อวันที่19 สิงหาคม ที่ผ่านมา กล่าวว่า จากวันที่เกิดเหตุถึงวันนี้ครบรอบหนึ่งเดือนพอดี  และในวันนี้เป็นวันนัดไกล่เกลี่ย เยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   ทางตัวแทนบริษัทประกันแจ้งว่าจะจ่ายเยียวยาให้เด็ก ๆ 2 ราย  รายละ1,000 บาท และจ่ายให้นักเรียนชายที่คางแตก 3,000 บาท ส่วนคู่กรณีที่ขับรถชนจะเยียวยาให้เด็กๆ คนละ 10,000 บาท  ที่ยังติดใจคือ ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เคยได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจจากคู่กรณีเลย แม้กระทั่งวันนี้ ทราบว่าคู่กรณีก็เดินทางมา และใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินทางกลับออกไป  ไม่มีแม้จะเข้ามาพูดคุยถามไถ่  ซึ่งเด็กๆ ที่ประสบอุบัติเหตุต่างก็เสียใจและไม่เข้าใจว่า ทำไมคู่กรณีถึงไม่มาดูดำดูดีอะไรกันเลย  วันนี้เด็กๆ และเราทั้งสามครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะไม่รับเงินเยียวยาตามที่เขาเสนอมา และพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด โดยมีทางมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัวได้เข้ามาช่วยเหลือเต็มที่

“เราไม่ได้รับเงิน เพราะถือว่าเขาไม่มีน้ำใจอะไรเลย คุณมาแล้วก็ไป ไม่ถามถึงเด็กเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง และหากเป็นลูกหลานของคุณที่โดนชนแบบนี้บ้างคุณจะรู้สึกอย่างไร  ตอนนี้เด็กยังขวัญเสียอยู่เลย ซึ่งสิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เงินมาก หรือเงินน้อย แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคือคำขอโทษจากใจของคุณจริงๆ การเยียวยาควรส่งถึงมือเด็กๆ ด้วยตัวคุณเอง  ด้วยการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  ไม่ใช่โยนทุกอย่างไว้ที่ประกัน หรือฝากไว้กับตำรวจ แม้กระทั่งวันนี้เขาเจอแม่ของน้องผู้ชายคนที่ถูกชนคางแตก เขายังไม่มองหน้าเลย  ซึ่งตนอยากให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานกับสังคมที่ต้องทำให้ทางม้าลายมีความปลอดภัยจริงๆ  ต้องยกระดับการบังคับใช้กฎหมายการทำผิดบนทางม้าลายไม่ใช่แค่ประมาท  มันควรเป็นการกระทำที่มีเจตนาเล็งเห็นผลได้เสียที”  แม่น้องพลอย กล่าว

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ในฐานะทนายความ กล่าวว่า จากพฤติการณ์และลักษณะ ผู้ถูกล่าวหา มีที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียนของนักเรียนผู้เสียหาย เดินทางผ่านหน้าโรงเรียนประจำ ย่อมรู้ดีถึงสภาพการจราจรบริเวณนั้นว่ามีเส้นสะเทือนให้ชะลอความเร็ว มีเครื่องหมายจราจร ทางม้าลายชัด และรู้ว่ามีช่วงที่นักเรียนข้ามถนน แต่กลับจงใจขับรถโดยประมาทฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร ฝ่าฝืนธงแดง จนชนเข้ากับนักเรียน 3 คนได้รับบาดเจ็บ แม้จะลงจากรถมามายกมือไหว้ ก่อนจะแจ้งให้ติดต่อบริษัทประกันและรีบขับรถออกไปโดยเร็ว ซึ่งจากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง และคลิปวิดีโอที่ปรากฎ พบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือประสานงานส่งต่อผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งที่ตัวเองก็เป็นแพทย์มีหน้าที่รักษาคน ดังนั้นเรื่องนี้จะมีการร้องเรียนต่อแพทยสภาเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณแพทย์ต่อไป 

“การกระทำดังกล่าวถือว่าขาดความระมัดระวัง ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ควรทำระหว่างขับรถในเขตเมือง ชุมชน โรงเรียน ไม่ทำตามระเบียบ พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522 โดยเคร่งครัด เมื่อดูพฤติการณ์ของผู้ถูกล่าวหา มีเจตนาเล็งเห็นผลได้ เป็นความผิดตามมาตรา295 ถือเป็นการจงใจหรือเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้ทำความเห็นเสนอต่อพนักงานสอบสวนเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว และจะติดตามว่าทางเจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนเพียงแค่ประมาทอีกหรือไม่ ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความประมาท แต่จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งขึ้น” ทนายสมชาย กล่าว