ภปค.ชงปิดยาวผับดัง “ก็อทแธม” ย่านหัวหมาก หลังตำรวจพบผิดกฎหมายเพียบ
ภปค.ชงปิดยาวผับดัง “ก็อทแธม” ย่านหัวหมาก หลังตำรวจพบผิดกฎหมายเพียบ ไม่มีใบอนุญาต-เปิดเกินเวลา แถมปล่อยนักเที่ยวพี้ยา เชียร์ ตร. จัดการเด็ดขาดไม่เลือกปฏิบัติ
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกฮอล์ (ภปค.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมผับก็อตแธม สถานบริการย่านพื้นที่ สน.หัวหมาก หลังพบว่าเปิดบริการเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พบนักเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 121 ราย โดยมี 26 รายมีสารเสพติดในร่าง พร้อมทั้งยังพบซองพลาสติกใส่ยาเสพติดตกกระจายในพื้นโดยรอบของสถานบันเทิงดังกล่าวหลายจุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดกับผู้ดูแลร้าน
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ที่ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมสถานบริการที่กระทำผิดกฎหมายหลายประการทั้งการเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ในกรณีนี้ยังพบว่าสถานบริการแห่งนี้ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพายาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน เจ้าหน้าที่จึงต้องลงโทษสถานบริการแห่งนี้ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการด้วย เราอยากให้เจ้าหน้าที่นำกฎหมายนี้มาจัดการให้เด็ดขาด และควรตรวจสอบผับบาร์ให้ต่อเนื่อง ไม่เลือปฏิบัติ
“คำสั่ง คสช.ที่ 22/58 ข้อ 4 กำหนดห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ คือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เปิดทําการหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน หากพบว่าสถานบริการกระทำผิดกฎหมายข้อใดข้อหนึ่งตามที่กล่าวมา กฎหมายบัญญัติให้ผู้มีอํานาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งปิดและห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการ หรือสถานประกอบการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปี หากเป็นกรณีที่สถานบริการนั้นตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง สถานศึกษาหรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ต้องสั่งปิดโดยถาวร และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีก” นายธีรภัทร์ กล่าว