กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด ผนึก รพ.สัตว์ทองหล่อ เปิดตัวแบรนด์ “เรมี่ (Remy)” อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพ
กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด (PFG) ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตอาหารระดับโลกกว่า 40 ปี จับมือ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ รพ.สัตว์ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมทุนทางธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “บริษัท เรมี่ เพ็ท (Remy Pet) จำกัด” เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “REMY(เรมี่)” อาหารน้องหมาน้องแมวเพื่อสุขภาพ พัฒนาสูตรโดยทีมนักโภชนาการสัตวแพทย์ กับคอนเซ็ปต์ “Recipe for My Love – สุขภาพดี…ที่ให้ด้วยรัก” ส่งขนมแคลอรี่ต่ำและอาหารสูตรเสริมสุขภาพสำหรับน้องแมวประเดิมสนาม อัดเต็มแคมเปญการตลาดชุดใหญ่ ก่อนปล่อยตัวอาหารสำหรับน้องหมาช่วงกลางปี พุ่งเป้ากลุ่มสินค้าตลาดพรีเมี่ยมในไทยกว่า 3,300 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนดันแบรนด์ ‘เรมี่’ สู่ระดับโลกภายในสามปี
นางสาว สุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด กล่าวถึงที่มาของแบรนด์ Remy ว่า “REMY(เรมี่) มีความหมายว่า ‘สิ่งล้ำค่า’ เป็นชื่อที่คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่นิยมตั้งชื่อของลูกสาวหรือลูกชาย ชื่อนี้จึงเป็นสื่อตัวแทนของความรักของเหล่า Pet Parents ที่ให้ความสำคัญกับสมาชิกสี่ขาเสมือนคนในครอบครัว โดยโลโก้ของ REMY มี ตัว M ที่ตั้งใจออกแบบให้มีดีไซน์คล้ายรูปหัวใจ สี Punchy Pink เป็นตัวแทนของความรักที่เราตั้งใจส่งมอบสุขภาพที่ดี ผ่านสูตรอาหารที่คัดเลือกมาแล้วอย่างดี เป็น Recipe for My Love อย่างแท้จริง”
สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า REMY เป็นการผสานความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ด้านโภชนาการของทีมสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ซึ่งการให้ความสำคัญกับสูตรอาหารและโภชนาการอาหารที่ดีเป็นหนึ่งในการดูแลที่สำคัญที่มีผลกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว และกลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตอาหารคุณภาพสูงมากว่า 40 ปี มีความชำนาญในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม (Human Grade Ingredients) ตลอดจนกระบวนการวิจัย พัฒนา ควบคุมและทดสอบคุณภาพ ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์และมั่นใจว่าผ่านมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพและรสชาติที่อร่อย ด้วยอุดมการณ์ร่วมกันที่ต้องการจะทำสิ่งดีๆ มีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง จึงเป็นที่มาของการร่วมทุนในครั้งนี้
ทางด้าน นาย ฐิติพงษ์ จิรอัศวกุล ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท เรมี่ เพ็ท (Remy Pet) จำกัด กล่าวเสริมว่า “REMY ให้ความสำคัญกับความสมดุลของรสชาติที่อร่อยและสุขภาพที่ดีของน้องหมาน้องแมว ดังนั้น ทุกๆ สูตรอาหารของ เรมี่ เราจะพัฒนาจากความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค (pet and pet parents) และพัฒนาสูตรร่วมกับสัตวแพทย์ เราคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ใช้วัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมเกรดเดียวกับวัตถุดิบที่ผลิตให้กับอาหารของคน (Human Grade Ingredient) และมีมาตรฐานสากลรับรองคุณภาพ ทั้งปราศจากสารปรุงแต่งรสไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เกลือหรือวัตถุกันเสีย ผ่านการวิจัยและพัฒนาสูตร จากทีมนักวิจัย และนักโภชนาการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่อร่อยและเสริมสุขภาพที่ดีให้ทั้งน้องแมวและน้องหมาทุกช่วงวัย โดยในปี 2566 นี้ จะเริ่มจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับน้องแมวและน้องหมา ซึ่งประกอบไปด้วย
1.ขนมมูสแมวเลีย สูตรแคลอรี่ต่ำ(Low Cal Tuna Mousse) สามารถทานได้ทุกวันไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนัก นอกจากจะมาในสูตรแคลอรี่ต่ำและไขมันต่ำแล้ว ยังมีสารอาหารที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคยอดฮิตอย่าง โรคหวัดแมว โรคไขข้อกระดูก หรือโรคทางเดินอาหาร เช่น อาการเกิดก้อนขน อาเจียน ถ่ายเหลว โดยขนมมูสแมว 3 สูตรแรกที่เราแนะนำคือ สูตรเสริมภูมิคุ้มกัน X2 จาก แอล-ไลซีนและเบต้ากลูเคน, สูตรเสริมระบบย่อยอาหาร และสูตรเสริมกระดูกและข้อ
2.อาหารแมว สูตรเสริมสุขภาพ เป็นสูตรอาหารที่เราพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ป Wellness Cat Food ด้วยรสชาติที่อร่อยแล้วยังเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์ถึง 2 ชนิด ในปริมาณที่นักโภชนาการสัตวแพทย์แนะนำ เพื่อให้น้องแมวได้รับสารอาหารที่มีโภชนาการอย่างสมดุล โดยอาหาร 3 สูตรแรกที่จะออกในปีนี้ คือ อาหารแมวรสปลาทูน่าในน้ำเกรวี่ หน้าปลาโอสไลด์ สูตรต้านอนุมูลอิสระ, หน้าเนื้อไก่ สูตรส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และ อาหารแมวเปียกรสปลาทูน่าในเนื้อเยลลี่ สูตรบำรุงผิวและขน
3.อาหารสุนัข สูตรเสริมสุขภาพ ยังคงคอนเซ็ปอาหารอร่อยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทางแบรนด์วางแผนจะเตรียมออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน 2566
ส่วนแผนในการเปิดตลาดของ REMY ครั้งนี้ เราพร้อมมากสำหรับการลงสนาม โดยจัดเต็มทุกพื้นที่ด้วยช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย อาทิ ร้านค้าในโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทั้ง 16 สาขา, ร้าน All About Pet โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร้านอาหารสัตว์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตลอดจนช่องทาง E-commerce และช่องทางที่กลุ่มลูกค้าคุ้นเคยอย่าง Line OA และ Facebook ที่จะสามารถดูแลลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมสร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อาทิ แคมเปญดูแลสัตว์เลี้ยงร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, กิจกรรม “เที่ยวสบายใจฝากแมวไว้กับ REMY” ลุ้นบัตรที่พักน้องแมวที่ Kofuku Pet Hotel สุขุมวิท และเล่นกิจกรรม Recipe for My Love บนช่องทาง Tik Tok พร้อมลุ้นรางวัลจาก REMY ในทุกช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีของเหล่าสมาชิกแสนรักผ่านการทานอาหารที่คิดค้นมาอย่างดี ให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงผ่านแคมเปญ‘Recipe for My Love’ พร้อมกับสร้างตัวตนของแบรนด์บนแฟลตฟอร์มโชเชี่ยลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ ผ่าน REMY Club คอมมูนิตี้สำหรับคนรักสัตว์ที่เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อแนะนำและบอกต่อสิ่งดีๆ ให้แก่กัน ทั้งยังสามารถติดตามข่าวสาร ร่วมเล่นกิจกรรมและซื้อสินค้าได้ในราคาสมาชิกอีกด้วย” นายฐิติพงษ์ กล่าว
นางสาวสุดาทิพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปัจจุบันนี้ เทรนด์ของธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนั้นเติบโตในทุก Segment โดยแบ่งแนวโน้มของผู้บริโภคออกเป็นเทรนด์สำคัญคือ “Humanization” คือเทรนด์ที่อาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มมีการใช้คุณภาพของวัตถุดิบใกล้เคียงกันมากขึ้น มีคอนเซ็ปอาหารที่สอดคล้องไปกับเทรนด์อาหารของคน
และในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองมูลค่าตลาดของอาหารแมวที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านนั้นภาพรวมเติบโตกว่า 10% ซึ่งมูลค่าตลาดแบ่งเป็นอาหารเม็ดมีสัดส่วนกว่า 60% ตามมาด้วยอาหารเปียก 30% และขนมประมาณ 10% ในขณะที่สัดส่วนของอาหารสุนัข มีอัตราการเติบโต 6% แต่มูลค่ารวมของตลาดอาหารสุนัขนั้นสูงถึงกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนเน้นไปทางด้านอาหารเม็ดประมาณ 60% ขนมหรือส่วนผสม 25% และอาหารเปียกประมาณ 15% (ข้อมูลจาก 2022, https://www.euromonitor.com/search?term=pet+food) โดยกว่า 3,300 ล้านบาท เป็นกลุ่มสินค้าในตลาดพรีเมี่ยมของไทยที่ REMY สนใจ เพราะเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความตั้งใจเลือกสิ่งที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยง มีการหาข้อมูล ก่อนตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ให้สัตว์เลี้ยงและยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก
ครั้งนี้เราออกสตาร์ทด้วยสินค้าอาหารแมว ซึ่งหลังจากงานเปิดตัวในครั้งนี้ ก็จะพบกับกิจกรรมจาก REMY ได้ที่งาน Pet Expo 2023 และแน่นอนในอนาคตเราเตรียมแผนขยายตลาดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข ซึ่งยังคงคอนเซ็ปอาหารอร่อยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทางแบรนด์วางแผนจะเตรียมออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าของตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ส่วนใครที่สนใจทดลองสินค้าอาหารสุนัขก่อนใครก็สามารถสมัครสมาชิก REMY Club หรือ มาพบกับเราได้ที่งาน Pet Expo เช่นกัน
ในส่วนของการขยายตลาดต่างประเทศ จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยขยายจากเครือข่ายของบริษัทในเครือ PFG ที่มีอยู่ในประเทศเวียดนาม จีน และฝรั่งเศส หลังจากนั้นจึงขยายไปยังกลุ่มประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพอื่นๆ ต่อไป” นางสาวสุดาทิพ ทิ้งท้าย