สร้างสันติภาพ สู่สันติสุข อโหสิกรรมทำบุญประเทศไทย เทิดไท้องค์ราชัน
งานแถลงข่าว สร้างสันติภาพ สู่สันติสุข อโหสิกรรมทำบุญประเทศไทย เทิดไท้องค์ราชัน วันที่ ๓-๖ เมษายน ๒๕๖๖ ณ อาคารศักดิ์สิทธิ์อัลลอยบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
หลวงพ่อดี เดิมชื่อนายสุวัฒน์ จันทร์ดี เกิดวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่บ้านสงเปือย ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ปี ๒๕๑๗-๒๕๔๔ ทำงานที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๔ ได้ค้นพบ วิชาธรรมเปิดโลกกรรมบันดาล ที่ถ้ำอรหันต์ วัดเขาสมโภชน์ จังหวัดลพบุรี เป็นศิษย์ หลวงพ่อคง จตฺตมโล โดยการน้อมจากภาพถ่าย (ไม่ได้เป็นลูกศิษย์โดยตรง เนื่องจากหลวงพ่อคงได้ละธาตุขันธ์ไปก่อนแล้ว) จะทำให้ห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ
โดยใช้หลักพลังขับเคลื่อนลมปราณผสานพลังงานจักรวาล ตามแนวทางอาณาปานสติ สติปัฏฐาน ๔ โพชฌงค์ ๗ ปัญญาวิมุตติ คือการกำหนดลมหายใจเข้า หายใจออก แรงเร็วเพื่อให้ลมเป็นพลังขับเคลื่อนลมปรานผสานพลังงานจักรวาล วิธีนี้ได้ผลเร็ว ใช้เวลาน้อย ทำได้ทุกอิริยาบถ เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาและสถานการณ์วิกฤตต่างๆในโลกปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่กับสิ่งคุกคามรุมเร้าทางด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกาย สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม การเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแบบนี้ จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ใช้หนี้กรรม และก่อให้เกิดสติปัญญาได้อย่างอัศจรรย์ เป็นการปรับธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้สมดุล รักษาโรคลมปราณทะลุทะลวงง่ายต่อการปรับธาตุ ทำให้ปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างของผู้ป่วยหนักหลายท่านมากและหลายโรครักษาไม่หาย เมื่อมาฝึกวิชาธรรมเปิดโลกกรรมบันดาลของหลวงพ่อดี ก็หายเป็นปกติโดยไม่ต้องทานยาอะไร อาทิ นางสมใจ รุจิพรรณโภคิน ป่วยด้วยโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ความดันต่ำ ไมเกรน ท้องผูก ริดสีดวง ภูมิแพ้ ปวดตามข้อทั่วร่างกาย นางประนอม คุ้มทอง ป่วยเป็นโรค ริดสีดวงจมูก ริดสีดวงทวาร โรคจิตหลอน กลัวความมืด อาเจียนไอ โรคเครียดนอนไม่หลับ ไม่มีแรง เกือบตายแล้ว และนางวราพร ทูคำมี เป็นโรคหน้ามืด เวียนศรีษะ ไทรอยด์ ภูมิแพ้ เหนื่อยง่าย รักษาอยู่หลายปีไม่หายจนได้มาพบวิชาธรรมเปิดโลกกรรมบันดาลของหลวงพ่อดีจึงหายแข็งแรงปกติ
หลวงพ่อดีได้อุปสมบทเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๗ เวลา ๐๙.๑๙ น. เป็นวันวิสาขบูชา ณ วัดนครธรรม ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ปัจจุบัน วัดและสถานปฏิบัติธรรมที่ หลวงพ่อดีได้นาพาคณะลูกศิษย์ริเริ่มก่อร่างสร้าง พุทธสถานมีทั้งหมด ๗ แห่ง ได้แก่
๑.ปี ๒๕๔๕ สถานปฏิบัติธรรมพุทธพัฒนา ต. ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ที่ ๘ ไร่
๒.ปี ๒๕๔๗ สถานปฏิบัติธรรมพุทธมงคล ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่ ๕๐ ไร่
๓.ปี ๒๕๕๑ สถานปฏิบัติธรรมพุทธพัฒนา ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ที่ ๔๐ ไร่
๔.ปี ๒๕๕๖ สถานปฏิบัติธรรมพุทธรักษา ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ที่ ๑๖ ไร่
๕.ปี ๒๕๕๗ วัดป่าพุทธอุทยาน ศูนย์ธุดงคสถาน ต.ห้วยใหญ่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ที่ ๔๘ ไร่
๖.ปี๒๕๕๘ สถานปฏิบัติธรรมพุทธเขาย่าสามัคคีธรรม ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ที่ ๑๗ ไร่
๗.ปี ๒๕๕๘ สถานปฏิบัติธรรมพุทธเมตตามหามงคล ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ที่ ๓๐ ไร่
สถานที่นั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธอุทยาน ธรรมอุทธยาน สังฆอุทยาน แห่งชาติ มอบให้มูลนิธิ เพื่อเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ ๑๐
หลวงพ่อดี พระสุวัฒน์ สุวฑฺฒโน พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ผู้มีปฏิปทาตั้งมั่น ที่จะสร้างสันติภาพ สู่สันติสุขของโลกให้เกิดขึ้น โดยนำหลักธรรมทั้ง ๒ พระองค์มา คือ
๑.ธรรมะของพระพุทธเจ้า หลักวิชาธรรมเปิดโลกกรรมบันดาล ที่พึ่งแห่งจิตใจ
๒.ธรรมะของพระราชา หลักวิชาศาสตร์พระราชาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พึ่งแห่งการดำเนินชีวิต แผนแก้ไขวิกฤตโลก “สร้างสันติภาพสู่สันติสุข” ด้วยวิธี
๑.สร้างคน ให้เกิดปัญญา พึ่งพาตนเอง เปลี่ยนคนป่วยให้เป็นหมอ หมอผุ้รักษาตนเองโดยไม่ต้องพึ่งเคมี เหตุปัจจัยต่างๆ แต่อาศัยเพียงลมหายใจ
๒.สร้างงานฟื้นฟูผืนป่า ทุกภาคส่วนตามสถานที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามงานที่สร้างทั่วทั้งประเทศ ให้เป็นพุทธอุทยานแห่งชาติ
๓.ประสานประโยชน์ สร้างอาชีพมีรายได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง การประสานประโยชน์จึงเกิดขึ้นเองโดยธรรม
ต่อมาเมื่อท่านพระอูปัสสมะจากใต้หวันได้ให้เงินทุน ๒๐๐๐๐๐ บาทแก่หลวงพ่อดีเพื่อมาก่อตั้งมูลนิธิสร้างสันติภาพสู่สันติสุขโลก (ม.ส.ล.) (WORLD PEACE FOUNDATION : W.P.F.) โดยหลวงพ่อดี เป็นประธานที่ปรึกษา และคุณศักดิ์สิทธิ์ วัชรฐิติเปรมชัย เป็นประธานมูลนิธิฯ ซึ่งมูลนิธินี้มีวัตถุประสงค์ตามชื่อคือต้องการสร้างการสร้างสันติภาพและสันติสุขให้เกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและเป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพสู่สันติสุขโลก
การเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ต้องทำอย่างไร ก็คือนิพพานกาย ปลอดจากการเบียดเบียนทุกชนิด จากตัวเองและผู้อื่นเช่น โรคภัยไข้เจ็บทางกาย นิพพานจิต ปลอดจาก กิเลสตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลง และเผยแผ่ วิชาธรรมเปิดโลกกรรมบันดาล
ทั้งนี้ในงานนี้หลวงพ่อดีได้นิมนต์ท่านคิรามา วิมาลาโชติ มหานายก ประมุขสงฆ์นิกายสยามวงศ์ และนายกศูนย์วัฒนธรรมชาวพุทธ ประเทศศรีลังกา มาเป็นประธานให้โอวาทและตีฆ้องเปิดงานในพิธีนี้ด้วย รวมทั้งท่านภิกษุณี เมนนาลูเว่ ธรรมะสันติ ผู้บริหารและอาจารย์ใหญ่ ศูนย์อบรมภิกษุณีและนานาชาติ คณะพุทธศึกษา ประเทศศรีลังกา มาร่วมงานด้วย อีกทั้งท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพฯยังได้ส่ง คุณพูลศรี เกียรติมณีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว มากล่าวเปิดงาน คุณสุวโรจน์ สุรักทวี ประธานที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาสกล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน
ซึ่งในโอกาสนี้หลังจากจบพิธีในตอนค่ำของวันจักรี คือพิธีไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา อธิษฐานจิต หลวงพ่อดีได้เข้ากรรมฐาน งดอาหาร งดนอน อยู่ห้องมืด เป็นเวลาหนึ่งเดือนจนถึงวันฉัตรมงคล วันที่ ๕ พฤษภาคม เพื่อเป็นการขอโหสิกรรม ให้แก่ประเทศไทย และบูรพมหากษัตริย์ไทยทุกสมัยที่ป้องกันประเทศไทยให้มีอิสรภาพและอยู่เป็นสุขจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะเพื่อราชวงศ์จักรีในวันจักรีปีนี้