เครือข่ายงดเหล้า สสส. ขยายผลโรงเรียนคำพ่อสอน
เครือข่ายงดเหล้า สสส. ขยายผลโรงเรียนคำพ่อสอน จัดเสวนาและเปิดห้องเรียนจำลอง ส่งต่อประสบการณ์พัฒนานักเรียนสู่การเปลี่ยนแปลง 4 ด้าน บูรณาการแก้ปัญหาเหล้าบุหรี่สารเสพติด
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ได้จัดเสวนา เปิดบ้านโรงเรียนคำพ่อสอน ในหัวข้อ “การพัฒนาที่คนด้วย soft power ที่นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลง 4 ด้านที่โรงเรียน” เพื่อแชร์ประสบการณ์การทำงานให้กับคุณครูเกือบ 100 คน ในเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข เพื่อนำเอาต้นแบบกระบวนการเรียนรู้ไปขยายผลต่อไป
นางสาวอภิษา มะหะมาน ผู้ประสานงานโครงการเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน กล่าวว่า กิจกรรมเปิดบ้านโรงเรียนคำพ่อสอน เป็นการขยายผลให้คุณครูที่เข้าร่วมอบรม โดยแบ่งเป็น 4 ห้องย่อย เพื่อทำกิจกรรมที่สะท้อนถึง การเปลี่ยนแปลง 4 ด้าน คือ ด้านที่ 1 เปลี่ยนแปลงที่ตัวครู โดยใช้กิจกรรมกงล้อ 4 ทิศ ที่แสดงถึงจุดแข็ง จุดอ่อนของแต่ละคนและนำมาสู่การปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน ด้านที่ 2 เปลี่ยนแปลงที่ตัวนักเรียน ผ่านกิจกรรมแบบนีโอ-ฮิวเมนิส หรือฐานใจ ทั้งการยิ้ม, ชื่นชม, สบตา, สัมผัส,สวัสดี ด้านที่ 3 เปลี่ยนแปลงระหว่างตัวครูกับผู้บริหารในโรงเรียน ซึ่งจะใช้กิจกรรมสุนทรียสนทนา หรือการรับฟังซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง และ ด้านที่ 4 เปลี่ยนแปลงผู้ปกครอง โดยใช้โพธิสัตว์น้อยชวนพ่อแม่เลิกเหล้า ด้วยการชวนให้ลด ละ เลิก อาทิ การทำลูกอมย่าหมอน้อย และกิจกรรมอะไรอยู่ในขวด เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่ได้อบรมในวันนี้ จะมีการนำกลับไปขยายผลต่อในโรงเรียนของตนเองต่อไป
ผศ.ดร.มนตา ตุลย์เมธาการ คณะทำงานวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยโครงการโรงเรียนคำพ่อสอนที่ดำเนินการมา 10 ปี มีจุดเด่นคือเป็นระบบสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ทำให้ได้ ผอ.หรือคุณครูที่มีใจเข้าร่วมโครงการจริงๆ อีกทั้งโครงการยังใช้หลักคำพ่อสอน คือ ให้ครูรักเด็ก ให้เด็กรักครู เป็นจิตวิทยาเชิงบวก สร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน รวมถึงเน้นการสอนแบบ “ความดี แล้วความเก่งจะตามมา” ซึ่งผลการศึกษาพบว่า เด็กมีผลการเรียนดีขึ้น ผู้ปกครองไว้วางใจโรงเรียนส่งลูก หลานมาเรียนใกล้บ้านแทนที่จะส่งไปในเมือง บางโรงเรียนไม่ถูกยุบ แต่ควรเพิ่มความรักความเมตตาของครูมาขึ้น นอกจากนี้การสำรวจยังพบว่าโครงการ ช่วยให้นักเรียนเห็นโทษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, บุหรี่ 79.75% โดยรู้ว่าทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว 91.14 % และมีผลเสียต่อสุขภาพ 86.08 % ทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น 93.67 % พร้อมปกป้องตัวเองจากเหล้า บุหรี่ และยาเสพติด 82.28 % ไม่ดื่มเหล้าเพื่อลบความไม่สบายใจ 70.89% เป็นต้น
ดร.ชัชวาล อาราษฎร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาชุมพร เขต 2 กล่าวว่า ปัจจุบัน การศึกษาหลงทางไปมาก แต่โครงการนี้มาถูกทางแล้ว ตนได้ให้ความสำคัญกับการทำงานจริงของครูในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 มีโรงเรียนในสังกัด 119 แห่ง ก็จะพยายามนำไปขยายผลแนวคิดความรักความเมตตาที่ครูมีต่อเด็กนักเรียนต่อไป ส่วนตัวพร้อมที่ทำเป็นแบบอย่าง พูดให้น้อย ทำให้มาก สื่อสารด้วยการตั้งใจทำ ความเก่งต้องสมดุลกับความดี
คุณครูเยาวดี ย้อยสวัสดิ์ (ครูแกนนำโรงเรียนคำพ่อสอนต้นแบบ รุ่น1 /โรงเรียนบ้าน คลองกก สพป.ชุมพร เชต2) กล่าวว่า การสอนเรื่องวิชาการไม่ใช่เรื่องยาก แต่การสอนให้เด็กมีทัศนคติและการใช้ชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องยาก ดังนั้นครูก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้เด็กเกิดความรัก ความเชื่อ ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอนที่สนุก และสนใจเรียนทุกวิชา เรื่องนี้ตนพิสูจน์แล้วจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังเข้าร่วมโครงการ ทำให้บรรยากาศในโรงเรียนเปลี่ยนแปลงไป เด็กนักเรียนรวมถึงผู้ปกครองก็เข้ามาหามากขึ้น นักเรียนที่จบไปแล้วยังคิดถึงและกลับเข้ามาช่วยเหลืองานโรงเรียนอยู่
ขณะที่ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สคล. กล่าวว่า ตนขอชื่นชมสิ่งที่ครูดี ไม่มีอบายมุข รวมถึงอาสาสมัครต่างๆ กำลังทำอยู่ ถือเป็นการสร้างความสุขจากสิ่งที่เราทำได้เพื่อคนอื่น เป็นฟอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่ประกอบไปด้วย 2 สิ่ง คือ สติ ถ้าขาดสติ ก็จะฉุนเฉียว โกรธง่าย หากดื่มเหล้าด้วย ยิ่งขาดสติ อีกอย่างคือ ปัญญา ซึ่งการดื่มเหล้าจำทำร้ายทั้งสติและปัญญา โดยเฉพาะหากดื่มตั้งแต่อายุน้อยๆ จะทำให้สมองถูกทำลาย สมองลีบเล็กลงไม่มีพัฒนาการ ดังนั้นการที่โครงการ และครูที่เข้าร่วมโครงการร่วมกันทำเพื่อให้สังคมลด ละ เลิกเหล้าได้ก็จะเปลี่ยนทำให้ชีวิต สุขภาพดีขึ้น ครอบครัวมีความสุข สังคมสงบสุข