คกก.บูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ วุฒิสภา สานพลัง สสส. กทม. รณรงค์ปีใหม่ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย
คกก.บูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ วุฒิสภา สานพลัง สสส. กทม. รณรงค์ปีใหม่ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย เน้นย้ำดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุอุบัติเหตุ 28% ผู้เสียชีวิตประสบอุบัติเหตุไม่ไกลจากบ้านระยะ 5-10 กิโลเมตร พร้อมให้ความสำคัญช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขั้นพื้นฐาน เพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 ที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ 2567 “ดื่มไม่ขับ…กลับบ้านปลอดภัย” ตอน CPR กับนาทีต่อชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาของการฉลองปีใหม่เริ่มต้นสิ่งดีๆ ขณะเดียวกันก็เป็นห้วงเวลาของการเดินทางสัญจรอย่างหนาแน่น ด้วยความห่วงใยถึงความปลอดภัยในการเดินทาง คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ร่วมกับ สสส. กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน จัดกิจกรรมเพื่อเชิญชวนปีใหม่นี้ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” เพราะดื่มแล้วขับ เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนถึง 28% ไม่ควรมีใครต้องเป็นเหยื่อ ผู้พิการ หรือผู้ประสบอุบัติเหตุ รวมถึงการใช้ความเร็ว เป็นสาเหตุสูงถึง 38% จึงขอเชิญชวนช่วงเทศกาลการเดินทาง ดื่มไม่ขับ ร่วมกับลดใช้ความเร็ว ลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ฉลองปีใหม่นี้ปลอดภัย
“นอกจากนี้ปัจจุบันการเจ็บป่วยฉุกเฉินมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งสาเหตุจากอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว ภาวะการหยุดหายใจกะทันหัน หัวใจล้มเหลว การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR และการใช้เครื่อง AED Choking ขั้นพื้นฐานอย่างมีทักษะที่ถูกต้องตามมาตรฐาน สามารถนำไปปฏิบัติดูแลชีวิตคนในครอบครัว และสังคมได้ การได้รับความช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างทันท่วงที และถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการส่งต่อผู้ป่วยไปยังแพทย์ สถานพยาบาล จะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตและกลับคืนมาใช้ชีวิตตามปกติได้” นายสุรชัย กล่าว
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของกลุ่มผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน พบว่ากว่า 50% พบแอลกอฮอล์ในเลือด สสส. จึงได้ผลิตสื่อสปอตรณรงค์ภายใต้แคมเปญ “ดื่มไม่ขับ: ดื่มเหล้า เมาถึงสมอง” 2 เรื่อง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงอันตรายจากการ ดื่มแล้วขับ ชี้ให้เห็นผลของแอลกอฮอล์ ที่ลงลึกกระทบต่อสมองและการขับขี่ ทำให้ตอบสนองช้าลง ตัดสินใจเบรกรถไม่ทัน กะระยะการขับขี่ผิดพลาด นอกจากนี้สสส. ยังมีสื่อภาพรณรงค์ที่ใช้ส่งต่อครอบครัว เพื่อน ร่วมรณรงค์ดื่มไม่ขับ และยังคงสื่อสารรณรงค์อย่างต่อเนื่องกับ “ให้เหล้า = แช่ง” ที่เน้นย้ำ การให้ของขวัญปีใหม่ที่มีคุณค่า ให้สิ่งดี ๆ ต่อกัน ปีใหม่นี้มอบสิ่งดีๆแทนการให้เหล้า กิจกรรมในวันนี้มีการสาธิตช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน Basic Life Support ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างถูกวิธี ขอให้ประชาชนท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อย่างมีความสุขและปลอดภัย ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย
“สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ สร้างความปลอดภัยทางถนน ร่วมประสานความร่วมมือหนุนเสริม มาตรการรัฐ ร่วมกับเครือข่ายตำบลสุขภาวะ กว่า 3,000 แห่ง และ 189 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 35 อำเภอ 20 จังหวัด สร้าง “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” เพราะข้อมูลชี้ชัดว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน เกิดเหตุไม่ไกลจากบ้าน ในระยะ 5-10 กิโลเมตร ท้องถิ่นจึงควรมีมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ลดพฤติกรรมเสี่ยง ให้จังหวัดและหน่วยงานเน้นย้ำ และมีมาตรการดูแลความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา 4 ภาค ร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดสวดมนต์ข้ามปี “เริ่มต้นดี ชีวิตดี รับปีใหม่” กว่า 140 วัด” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำว่า กทม.ให้ความสำคัญและมีแผนการทำงานชัดเจนในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ตลอดปี 2566 กรุงเทพมหานคร ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง อาทิ รณรงค์การสวมหมวกนิรภัยและการข้ามทางม้าลายให้กับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร การปรับสภาพกายภาพของถนนที่ชำรุดให้มีสภาพใช้งานได้โดยปลอดภัย การปรับปรุงแก้ไขสัญญาณไฟจราจรทางแยกและทางข้าม เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทาง ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ กทม. เองก็จะเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนอย่างเต็มที่ รวมไปถึงความปลอดภัยในด้านอื่นๆด้วย และขอให้ประชาชนได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย