Rado ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุและงานออกแบบ
หนึ่งในวิสัยทัศน์อันแข็งแรงของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rado คือ “ถ้าเราจินตนาการสิ่งใดขึ้นมาได้ แปลว่าเราก็สร้างสรรค์สิ่งนั้นได้ แล้วถ้าเราสามารถทำได้ เราก็จะลงมือทำ!” ซึ่งหลักคิดนี้เองที่ทำให้เราได้เห็น Rado พัฒนาสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งมาตลอด จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุตัวจริงแห่งโลกนาฬิกา โดยมี Rado High-Tech Ceramic เป็นหลักฐานยืนยันความเชี่ยวชาญดังกล่าว วัสดุที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากแร่ธาตุในธรรมชาติ นำมาผนวกกับนวัตกรรมที่มนุษย์คิดค้นขึ้น จนคนรักนาฬิกาทั่วโลกพูดถึงไฮเทคเซรามิกของ Rado ตรงกันว่า “ให้ความรู้สึกพิเศษ ที่ไม่เหมือนสิ่งใดเลย”
Rado เริ่มการค้นหาและศึกษาวัสดุใหม่ๆ มาตั้งแต่ช่วงต้นของการก่อตั้งแบรนด์เมื่อศตวรรษก่อน โดนนำศาสตร์ทางวิศวกรรม เคมี และฟิสิกส์มาบรรจบกัน จนผลิตโลหะผสมที่มีความแข็งแรงทนทานสูงได้ รวมถึงคิดค้นวิธีนำโลหะผสมมาใช้สร้างสรรค์นาฬิกา อาทิ การใช้ทังสเตนคาร์ไบด์ “Hardmetal” กับกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ในรุ่น DiaStar1 เมื่อปีค.ศ. 1962 นาฬิกาเรือนแรกที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้จริง แถมแบรนด์ยังใช้นวัตกรรมในงานออกแบบจน DiaStar มีรูปทรงที่โดดเด่นกว่าเรือนอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น
ต่อมา Rado ก็ยังคิดค้นวิธีการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นการเติมสารยึดเกาะโพลิเมอร์เพื่อให้ทีมงานสามารถฉีดขึ้นรูปนาฬิกาได้หลายรูปแบบมากขึ้น มีการนำไทเทเนียมไนไตรด์มาทำพื้นผิวนาฬิกาที่มีความทนทานสูง รวมถึงการพัฒนาคริสตัลแซฟไฟร์จนได้นาฬิกาที่โดดเด่นอย่างซีรีส์ Captain Cook อันงดงาม
จากนั้นในยุค 90 จึงมีการเปิดตัว “ไฮเทคเซรามิก” ซึ่งช่วงแรกเป็นไฮเทคเซรามิกสีเข้มแบบเรียบง่าย ก่อนจะพัฒนาสร้างเฉดสีต่างๆ อาทิ สีทอง สีโรสโกลด์ รวมถึงเฉดสีพาสเทล จนปัจจุบันมีมากกว่า 20 สี ตอบโจทย์ความชอบที่หลากหลายของคนรักนาฬิกา โดยที่ความสวยงามนี้ยังคงคุณสมบัติเฉพาะตัวของไฮเทคเซรามิกไว้ครบครัน ทั้งน้ำหนักเบา ให้สัมผัสนุ่มนวล และทนต่อรอยขีดข่วน
ล่าสุดกับนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีกรมท่า 2 รุ่นคือ Rado True Square Automatic Skeleton ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่กับมุมที่โค้งมน หน้าปัดด้านหน้าดีไซน์ให้มีบริดจ์สีน้ำเข้มเข้มพาดผ่านฟันเฟืองกลไกคาลิเบอร์ R808 อันงดงามด้านใน อีกหนึ่งรุ่นคือ Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton นาฬิกาผิวด้านดีไซน์สปอร์ต ที่พร้อมให้ใส่ไปผจญภัยในทุกสถานการณ์ บริเวณหน้าปัดเป็นแบบเปลือยให้เห็นกลไกการเดินคาลิเบอร์ R808 แบบเต็มตาเช่นกัน ส่วนสายนาฬิกาทำจากยางสีกรมท่าเฉดเดียวกับตัวเรือน นอกจากความงดงามภายนอกแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังติดตั้งแฮร์สปริง Nivachron™ มาช่วยป้องกันสนามแม่เหล็กเพื่อให้บอกเวลาได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพแวดล้อมด้วย เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาเรือนใหม่จาก 2 คอลเล็กชั่นในตำนานของแบรนด์ที่ครบเครื่องมาตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ ภายใน จนถึงวัสดุภายนอกอย่างไฮเทคเซรามิกและคริสตัลแซฟไฟร์ สองวัสดุที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแรงทนทานที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกา