ค้านตัดงบฯ ผอ.คนนอกบ้านกาญฯ ชี้ เป็นการตัดโอกาสเด็ก เยาวน ก้าวพลาดถูกขัดเกลา คืนสู่สังคม
ค้านตัดงบฯ ผอ.คนนอกบ้านกาญฯ ชี้ เป็นการตัดโอกาสเด็ก เยาวน ก้าวพลาดถูกขัดเกลา คืนสู่สังคม “บก.ลายจุด” แฉคำอ้างไร้เงิน แต่เจตนาที่แท้จริง ต้องการล่ม “ทิชา-นวัตกรรม” ออกจากระบบยุติธรรม ด้าน “เลขาฯ การมูลนิธิเด็กเยาวชนฯ” เปิดเวทีฟังเสียงป้ามล- อดีตเยาวชนบ้านกาญฯ
ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า กองทรัพยากรบุคคลกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแจ้งว่า งบประมาณในปี 2568 มีการตัดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กและเยาวชนออก ความหมายคือต้องยุติการทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกฯ บ้านกาญจนาภิเษกคนนอกออก คือนางทิชา ณ นคร ออกนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และมีข้อกังวลในสังคมอย่างกว้างขวางว่า การดำเนินงานในระยะต่อไปของบ้านกาญจนาฯ จะเข้าสู่ระบบราชการ อำนาจนิยมที่ควบคุมสูง เครือข่ายอดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ในนามกลุ่มผู้ถูกเจียระไน พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนจึงได้ยื่นหนังสือพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อแสดงจุดยืนและข้อเสนอ ต่อการให้ยุติบทบาทผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก คนนอก เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา
วันที่ 9 กันยายน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า บ้านกาญจนาฯ ที่ตั้งมา 20 ปี มีนางทิชา เป็นผู้อำนวยการ ได้ทำให้เยาวชนที่ก้าวพลาดจากโครงสร้างสังคมที่ใช้อำนาจเหนือกว่าของคนในครอบครัว อำนาจของระบบการศึกษา และความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ทำให้เยาวชนกลุ่มนี้ขาดโอกาส และก้าวเดินที่มีทางเลือกไม่มาก นำไปสู่การก่ออาญากรรมต่างๆ อาทิ คดีเพศ ยาเสพติด กระความรุนแรงฆ่าคนตาย ฯลฯ ที่สังคมมองว่าไม่มีทางเยี่ยวยาเปลี่ยนแปลงได้ แต่บ้านกาญจนาฯได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเยาวชนกลุ่มนี้สามารถเปลี่ยนได้ จากการทำงานอย่างหนักของนางทิชา ใช้พื้นที่ ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเด็กเยาวชนที่เข้าไปในบ้านนี้ รวมถึงครอบครัวขอเด็กเหล่านี้ได้เกิดการเรียนรู้วิชาชีวิต เหตุ และผล จนสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ออกมามีที่ยืนในสังคม มีอาชีพที่มั่นคง มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กลับคืนมา
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับภาคประสังคม และชุมชนต่างๆได้มาเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับการทำงานกับเยาวชน และเปลี่ยนทัศนคติให้โอกาสกับเยาวชนที่ก้าวพลาดที่มีอยู่ทุกหนแห่งในสังคม ส่วนตน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลได้เข้าไปเรียนรู้วิธีการทำงาน ของนางทิชา และบ้านกาญจนาฯฯ หลายปี ได้เห็นเยาวชนที่เติบโตทั้งความคิด และนำบทเรียนของตนเองมาสื่อสาร รณรงค์ให้สังคมได้เรียนรู้ไม่ให้สังคมก้าวพลาดเหมือนกับตนเอง ช่วยลดปัญหาความรุนแรงได้ แต่ถ้ากระทรวงยุติธรรมยังยืนยันตัดงบประมาณบ้านกาณจนาฯ ไม่ให้ค่ากับการทำงาน 20 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการตัดโอกาสเยาวชนกลุ่มที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลับมามีที่ยื่นในสังคมอย่างน่าเสียดาย อย่าให้คนบางคนในกระทรวงยุติธรรม กรมพินิจฯที่ไม่เข้าใจมาตัดอนาคตเยาวชนเลยคนเลย
ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บรรณาธิการลายจุด นักรณรงค์เคลื่อนไหวทางสังคม กล่าวว่า การที่รัฐบาลระบุว่าไม่มีงบฯ สำหรับผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่เป็นผู้อำนวยการบ้านกาญจนาฯ หรือเรียกว่า ตัดงบฯ บ้านกาญจนาฯ ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าคือนางทิชา นั่นคือการปิดบ้านกาญจนาฯ โดยสมบูรณ์ ทำลายนวัตกรรมการฟื้นฟูเยาวชนผู้ก้าวพลาดซึ่งเป็นความหวังของการแก้ไขปัญหาเยาวชนกลุ่มนี้ นับเป็นเรื่องที่สิ้นคิดมากที่ทำแบบนั้น และถ้าอ้างว่ารัฐไม่มีงบ 15 ล้านบาทต่อปี ตนก็ขอเสนอว่า ถ้าภาคประชาชนจะระดมทุนเพื่อให้บ้านกาญจนามีงบประมาณทำงานต่อได้ ตนยินดีเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ระดมทุนเพื่อบ้านกาญจนา แต่ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือต้องการกำจัดนางทิชา และนวัตกรรมบ้านกาญจนาฯ ออกจากระบบเท่านั้นเอง
ขณะที่ นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชุดเจนว่า สรุปแล้วบ้านกาญจนาฯ จะได้ไปต่อหรือไม่ เพราะในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณล่าสุด จากการอภิปรายของ สส.พรรคประชาชน พบว่างบฯ ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ไม่ปรากฏรายการงบฯ ของบ้านกาญจนาฯ แม้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะพยายามชี้แจงให้ความเชื่อมั่นว่า น่าจะไม่มีการยุติบ้านกาญจนาฯ เช่นเดียวกับพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่พูดต่อสาธารณะว่าบ้านกาญจนาฯ เป็นศูนย์ฝึกฯที่ดีที่สุดของกระทรวงยุติธรรมและต้องขยายไปให้มากขึ้น ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% ถึงการได้ไปต่อของบ้านกาญจนาฯ จึงต้องจับตากันต่อไป และในวันที่ 12กันยายน นี้ เวลา 13.30 น.ที่ห้องอเนกประสงค์ หอศิลปะวัฒนะธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จะมีการเสวนาหัวข้อ “เปิดใจป้ามลและงานวิจัยบ้านกาญจนาภิเษก…ไปต่อหรือพอแค่นี้” โดยนางทิชา และอดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาฯ จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมและติดตามไลฟ์สดทางเพจมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว