ในประเทศ

“วราวุธ” รมว.พม. เปิดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย 67 ยกย่อง อาสาสมัคร ต้นแบบจิตสาธารณะ อุทิศตนเพื่อสังคม

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น เนื่องในงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2567 โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน และ ดร.วิชัย ไทยถาวร รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนที่ 1 กล่าวรายงานถึงการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น และมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษผ่านการบันทึกวิดีโอ ซึ่งมีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คณะอนุกรรมการคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ผู้แทนส่วนราชการ องค์การสวัสดิการสังคม องค์กรเอกชน ผู้แทนองค์กรที่มีการปฏิบัติงานกับอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เข้าร่วมงาน ณ ห้องวายุภักษ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 4 อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

นายวราวุธ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน  2528 กำหนดให้วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2543 เห็นชอบให้วันที่ 21 ตุลาคม เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงร่วมกันจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยเป็นประจำทุกปี

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในงานด้านสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์ การพัฒนาสังคม อีกทั้งเพื่อเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น โดยมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย  1) การประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2567 หัวข้อ “ทิศทางการพัฒนางานอาสาสมัครไทย เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”  2) พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่น 250 ราย และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น 25 องค์กร 3) นิทรรศการ 3 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 เทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โซนที่ 2 อาสาสมัครสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ประจำปี 2567 และโซนที่ 3 นิทรรศการภารกิจและผลงานของหน่วยงานภาคีเครือข่าย สำหรับอาสาสมัครดีเด่น ประจำปี 2567 จำนาน 250 ราย อาทิ พระครูปลัด สุริยา ยติกโร นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) นางสาวพัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ (เกรซ-พัชร์สิตา) นายนพคุณ โพธิสาร และนางกนกวรรณ ด้วงเงิน เป็นต้น และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน 25 องค์กร อาทิ วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง จังหวัดลำพูน เทศบาลเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม สมาคมอาสาสร้างสุข จังหวัดสงขลา กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเวียงตาล จังหวัดลำปาง บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) จังหวัดสระบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีองค์การสวัสดิการสังคม จำนวน 7 องค์การ ที่ได้รับโล่มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมอีกด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า  ตนเชื่อว่าบทบาทของอาสาสมัครและการทำงานสังคมสงเคราะห์นั้น คงไม่มีเวลาใดที่จะพูดถึงทุกท่านได้ดีเท่าในขณะนี้ ช่วงเวลาที่หลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังประสบปัญหามากมาย ที่มีน้ำท่วมน้ำป่าหลากลงมา ยังไม่รวมถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งการทำงานของหน่วยราชการต่างๆ นั้น จำนวนข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีกำลังพลเพียงแค่หยิบมือเดียวจะเทียบกับจำนวนอาสาสมัครที่ช่วยพวกเราทำงานอยู่ทั่วประเทศนั้นแทบไม่ได้เลย ดังนั้นบริบทการทำงานในส่วนของกระทรวง พม. และอีกหลายกระทรวง หน้าที่ของอาสาสมัครนั้นล้วนแล้วแต่เป็นหน้าที่ที่สำคัญกับพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศไทยของเราโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงเป็นแบบอย่างให้กับพวกเราทุกคนได้ทรงริเริ่มแนวทางให้กับประสกนิกรชาวไทยมาจนถึงวันนี้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชปณิธานที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจ ดังนั้นคุณูปการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้พระราชทานให้กับคนไทย ซึ่งคนไทยทุกคนควรจะน้อมนำเอาแนวทางใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาเป็นการทำงานในชีวิตประจำวันของพวกเราอย่างยิ่ง การทำงานอาสาสมัครนั้น หลายภารกิจหน้าที่เป็นภารกิจที่ไม่ได้ค่าตอบแทน แต่ต้องสละกำลังทรัพย์ส่วนตัวและกำลังกาย อาศัยความเสียสละเป็นอย่างยิ่ง

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ขอฝากอาสาสมัครอีกหนึ่งบทบาทคือช่วยกันป้องกัน เพราะว่าการป้องกันนั้นง่ายกว่าและถูกกว่า ต้นทุนในการที่จะเข้าไปแก้ไข เช่น สังคมสูงอายุในปัจจุบันถ้าเราสามารถเข้าไปดูแลพี่น้องผู้สูงอายุให้มีชีวิตที่ยังกระฉับกระเฉงในการทำงาน มีกิจกรรมต่างๆ จะเป็นการป้องกันและไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นคนที่ติดบ้านและติดเตียงในที่สุด นอกจากจะดูแลเรื่องคนแล้วต้องดูแลปัจจัยต่างๆ ที่จะกระทบกับชีวิตของมนุษย์ด้วย เช่น การรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำทั้งหลายเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ธรรมชาตินั้นมามีผลกระทบกับชีวิตของมนุษย์ กระทรวง พม. เชื่อว่าทุกท่านเป็นอาสาสมัครของประเทศไทยที่ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้กับอาสาสมัครทุกท่าน เพราะว่าการทำงานของอาสาสมัครต้องใช้กำลังกายและกำลังใจ วันนี้เรามาเป็นกำลังใจและแสดงความยินดี ยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับอาสาสมัครดีเด่น องค์กรที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น และตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาสาสมัครทุกท่านนั้น จะยังคงดำเนินภารกิจที่เข้มแข็งเช่นนี้ เป็นตัวอย่างให้กับอาสาสมัครทั่วประเทศต่อไป

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #21ตุลาคม #วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ #วันอาสาสมัครไทย #สมเด็จย่า #สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี