ในประเทศ

TWPC ได้รับการรับรอง IPHA โรงงานวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวปลอดโควิด-19

บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC โดยโรงงานวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวที่บางเลน จังหวัดนครปฐม ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย “IPHA – Industrial and Production Hygiene Administration” ตอกย้ำความมั่นใจด้านความปลอดภัยในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และเป็นโรงงานวุ้นเส้นภายใต้แบรนด์มังกรคู่ หงษ์ กิเลนคู่ และโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยวรายแรกในประเทศไทย

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง  และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่าบริษัทให้ความสำคัญในด้านการผลิตอาหารปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ได้มีการยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุดหรือมาตรฐาน IPHA เริ่มตั้งแต่การบริหารจัดการสถานที่ กระบวนการผลิต และบุคลากรตามมาตรการร่วม และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่มีมาตรฐานปลอดภัยจาก COVID-19 โดยโรงงานงานวุ้นเส้นภายใต้แบรนด์มังกรคู่ หงษ์ กิเลนคู่ และโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่จังหวัดนครปฐม ถือเป็นสถานประกอบการในกลุ่มโรงงานวุ้นเส้นเจ้าแรกที่ได้รับการรับรองดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับมาตรฐาน IPHA เป็นมาตรฐานใหม่ ภายใต้ความร่วมมือของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมควบคุมโรค สถาบันอาหาร และสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอร่วมกันวางกรอบการพิจารณา เพื่อมอบให้แก่สถานประกอบการที่มีการบริหารจัดการสถานที่ กระบวนการผลิต และบุคลากร ตามมาตรการร่วม และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ที่มีการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการเพื่อป้องกัน COVID-19 อย่างชัดเจน 

นอกจากนี้ ไทยวา ยังเดินหน้า โครงการ“ ไทยวา ร่วมใจ สู้โควิด-19” ต่อเนื่อง โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งความห่วงใย ให้แก่โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ในการปฏิบัติงานในสถานการณ์สู้โรคโควิด-19 ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปวุ้นเส้นมังกรคู่ เรดดี้ น้ำดื่มไทยวา และอาหารปรุงสำเร็จด้วยก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ตรากิเลนคู่ รวมถึงอาหารพร้อมทาน ให้กับโรงพยาบาลสนาม และชุมชนที่ยังขาดแคลนอาหาร รวมถึงร่วมกับ “เรื่องเล่าแบ่งปัน” ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปวุ้นเส้นมังกรคู่ เรดดี้ ให้แก่ชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพและปริมณฑลอีกด้วย

ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทฯ มีแผนการดำเนินธุรกิจ โดยกำหนดกลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มาขับเคลื่อนความเร็วและประสิทธิภาพตลอดกระบวนการทำงานของทั้งองค์กรและนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ และเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยผลิตสินค้าประเภท “ไบโอพลาสติก” ซึ่งเป็นผลผลิตจากพืชผลทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% เพื่อนำไปใช้ในรูปแบบประเภทสินค้าภาชนะ และของใช้ในการเกษตรทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปีนี้ และทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้แต่จะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป